วันพุธที่ 19 มีนาคม 2568 เวลา 10.15 น. พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมด้วย นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังสำนักงานชลประทานที่ 17 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการฟื้นฟูให้ความช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในจังหวัดนราธิวาส พร้อมกับรับฟังรายงานผลการดำเนินงานโครงการระบบส่งน้ำบ้านเกาะสะท้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส
ช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะฯ เดินทางไปยังฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (ปูยู) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำโก-ลก ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการระบบส่งน้ำบ้านเกาะสะท้อนฯ ณ ประตูระบายน้ำปลายคลองมูโนะ (ปตร.ปูยู) ในการนี้ องคมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น พบปะราษฎรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ
ด้วยพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2527 ครั้งเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรประตูระบายน้ำปูยู และระบบส่งน้ำที่เกาะสะท้อน โครงการชลประทานมูโนะ ในเขตอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สรุปความว่า เมื่อโครงการชลประทานมูโนะก่อสร้างแล้วเสร็จ จะมีประโยชน์รวมกันหลายด้าน จึงสมควรจัดทำคู่มือขึ้นไว้ใช้ปฏิบัติ แล้วแนะนำกลุ่มราษฎรที่เกี่ยวข้องได้ทราบ จัดให้มีการอบรมราษฎรให้มีความเข้าใจถึงวิธีการส่งน้ำเข้าไปใช้ทำนา และวิธีการระบายน้ำที่ไม่ต้องการออกไป ตลอดจนวิธีการดูแลรักษาอาคารต่าง ๆ ที่ก่อสร้างไว้ รวมถึงส่งเสริมให้ราษฎรใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์อย่างทั่วถึง และควรสนับสนุนให้ราษฎรปลูกพืชที่ขายได้ราคาดีด้วย
กรมชลประทานจึงได้ออกแบบโครงการทั้งระบบ อาทิ การก่อสร้างประตูระบายน้ำปลายคลองมูโนะ (ปตร.ปูยู) ก่อสร้างระบบส่งน้ำ การก่อสร้างคันกั้นน้ำ และการก่อสร้างท่อระบายน้ำพร้อมบานระบาย สายหลัก จำนวน 3 แห่ง โดยสำนักงาน กปร. พิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างท่อระบายน้ำพร้อมบานดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันสามารถบรรเทาอุทกภัยได้เป็นอย่างดี รวมถึงป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำ และสามารถส่งน้ำจืดให้พื้นที่เพาะปลูกและพื้นที่การเกษตรได้ตลอดปี สร้างอาชีพทางการเกษตรที่หลากหลายให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ เป็นแหล่งปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง “ซีบูกันตัง” แหล่งสำคัญของจังหวัดนราธิวาส รวมถึงการอุปโภคบริโภคและเลี้ยงสัตว์ ประมาณ 7,750 ไร่ นอกจากนี้ มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มบริหารการใช้น้ำเกาะสะท้อน จำนวนสมาชิก 1,291 ราย เพื่อให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำสร้างความสามัคคีและความเข้มแข็งให้แก่ราษฎรตำบลเกาะสะท้อน
จากนั้น องคมนตรีและคณะฯ เดินทางไปยังโรงสีข้าวพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยติดตามผลการดำเนินงาน และเยี่ยมชมสภาพพื้นที่ของสหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพิกุลทองฯ พร้อมกันนี้ ได้ร่วมเกี่ยวข้าว ณ แปลงข้าวของเกษตรกร
โรงสีข้าวพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2528 ให้จัดสร้างโรงสีข้าว ณ บริเวณโครงการชลประทานมูโน๊ะ หมู่ 1 บ้านปูยู ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส (ปัจจุบัน คือ โครงการส่งน้ำละบำรุงรักษาลุ่มน้ำโก-ลก) และพระราชทานเงินทุนหมุนเวียนสำหรับดำเนินงานภายในโรงสีข้าว จำนวน 50,000 บาท ต่อมา เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2551 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎรพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพระราชดำริให้ปรับปรุงโรงสีข้าวพิกุลทองให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ปี 2529 สำนักงาน กปร. จึงให้การสนับสนุนงบประมาณ แก่กรมชลประทานและกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงสีและจัดหาครุภัณฑ์ และให้การสนับสนุนงบประมาณแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวทางการดำเนินงานในระยะต่อไป มีแผนจะดำเนินงานปรับปรุงโรงสีข้าวพิกุลทองฯ และพิพิธภัณฑ์โรงสีข้าว ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัยในปี 2567 เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะส่งผลให้เครื่องสีข้าวกลับมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนใช้เป็นสถานที่ศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับการปลูกข้าวครบวงจร ซึ่งโรงสีข้าวพิกุลทองฯ นับเป็นโครงการตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้เกษตรกรนำไปปฏิบัติสู่หลักการรวมกลุ่มของราษฎรในชุมชนในการพึ่งพาตนเอง