ข้อมูลด้านเศรษฐกิจพอเพียง/รายละเอียด
เกิดวิกฤตชีวิตประสบปัญหาหนี้สิน จนกระทั่งไปทำงานรับจ้างในประเทศมาเลเซียเพื่อหาเงินใช้หนี้ เมื่อใช้หนี้สินหมดจึงเริ่มทำเกษตรผสมผสานและต่อมาทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ โดยใช้แรงงานในครอบครัว 6 คน ด้วยทุนความขยัน ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างแหล่งอาหารให้มีกินตลอดปี และแนวคิด “มีพอกิน เหลือกินแจก เหลือแจกขาย” และ “ปลูกทุกอย่างที่คนอื่นซื้อกิน” รวมถึงปิดรายจ่ายด้วยแนวคิด ทำแทนจ่าย เช่น ถ่าน และปุ๋ยอินทรีย์ อีกทั้งมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่น จนสามารถปลดหนี้สิน มีเงินออม ครอบครัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข และมีความสุข มีบทบาททางสังคมเป็นผู้นำชุมชน เป็นปราชญ์ชาวบ้านของชาวอีสาน และเปิดเป็นศูนย์ถ่ายทอดความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง
ปัจจุบัน ในปี 2567 นายจันทร์ทีฯ อายุ 86 ปี ยังคงทำเกษตรผสมผสานในพื้นที่ 22 ไร่ ตามแนวพระราชดำริ โดยยึดหลักการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และการปลูกป่า 5 ระดับ ผสมคละเคล้ากันอย่างหลากหลายโดยให้แต่ละชนิดอาศัยเกื้อกูลกันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังส่งต่อองค์ความรู้ แนวคิดและประสบการณ์ให้กับลูกหลานและครอบครัว มีการขยายผลแนวคิดเกี่ยวกับศูนย์เรียนรู้ฯ และต่อยอดความสำเร็จองค์ความรู้ด้านต่างๆ ไม่ว่าจะด้านสมุนไพร การปลูกป่า การบริหารจัดการรายได้ และการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ(ปุ๋ยอินทรีย์) ไปสู่เครือข่ายต่างๆอย่างกว้างขวาง เช่น คณะอาจารย์มหาวิทยาลัย โรงเรียนในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง และเข้าร่วมโครงการธนาคารสมุนไพรกลุ่มว่านกับสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ องค์การมหาชน (BEDO) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมาเพื่อให้นักเรียนเข้าศึกษาอบรม เรียนรู้ด้านสมุนไพร การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ และการปรับปรุงบำรุงดิน
เอกสารเพิ่มเติมที่ Download ได้
จันทร์ที.pdf
รายละเอียดเพิ่มเติม
ข้อมูล ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2567