Page 29 - ISSUE04_EBook-2_Neat3
P. 29
้
ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ใชเพลง “บุหลันลอยเลื่อน” (บุหลัน
์
็
เลื่อนลอยฟา ทรงพระสุบิน สรรเสริญพระจันทร) โดยบรรเลงเปน
้
้
้
เพลงตับ ประกอบดวย เพลงสรรเสริญพระบารมี กินรีฟอน ศศิธร
ทรงกลด ใช้บรรเลงตอนรับเสด็จและส่งเสด็จ
ในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีการฝึกทหารตามแบบอย่าง
ประเทศตะวันตก มีหัวหน้ากองแตรทหารเป็นชาวอังกฤษ
ชื่อ Thomas George Knox ใชเพลง God Save the King ซึ่งเปน
้
็
เพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติของอังกฤษ บรรเลงถวาย
ความเคารพ และพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)
ได้ใช้ท�านองเพลงนี้แต่งค�าร้อง ชื่อเพลง “จอมราชจงเจริญ”
เนื้อร้องความว่า
“ความสุขสมบัติทั้ง บริวาร
เจริ พละปฏิภาณ ผ่องแผ้ว
จงยืนพระชนม์นาน นับรอบ ร้อยแฮ
มีพระเกียรติเพริศแพร้ว เล่ห์เพี้ยงเพ็ จันทร์”
ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อคราวเสด็จฯ ประพาสเมืองสิงคโปร ์ ชูรอฟสกี ประพันธ์เป็นโน้ตสากลซึ่งไม่มีครูดนตรีชาว
และเกาะชวา (พ.ศ. ๒๔๑๔) ทหารอังกฤษได้ใช้เพลง “ก็อดเซฟ สยามผู้ใดอ่านออกในขณะนั้น สันนิษฐานว่า สมเด็จพระเจ้าบรม
ั
็
เดอะคิง” บรรเลงเปนเพลงเกียรติยศรับเสด็จ ปญหาจึงเกิดขึ้นวา วงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเชิญนักดนตรี
่
ทั้งอังกฤษและไทยต่างใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเพลง ชื่อเฮวุดเซน มาบรรเลงเพลงนี้บนเปียโนให้ฟัง สมเด็จพระเจ้า
่
เดียวกัน ตอมาเมื่อเสด็จฯ ไปเมืองปตตาเวีย (ชวา) มีชาวฮอลันดา บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้ฟังจึงทรงนิพนธ์
ั
ถามถึงเพลงชาติของสยามเพื่อน�าไปบรรเลงรับเสด็จ จึงมีรับสั่ง เนื้อร้องใส่เข้าไป และออกบรรเลงครั้งแรกที่ศาลายุทธนาธิการ
ให้ครูดนตรีประชุมแต่งเพลงใหม่ แทนเพลงเดิมที่ท�านองเพลง ในปีเดียวกัน ต่อมาทรงนิพนธ์เนื้อร้องของเพลงนี้อีกหลาย
่
ไปเหมือนกับเพลงของอังกฤษ และโดยที่สยามไมไดเปนเมืองขึ้น เนื้อร้องเพื่อขับร้องในกลุ่มต่าง ๆ กัน เช่น ทหาร นักเรียนชาย
็
้
ของฝรั่งอย่างสิงคโปร์หรือปัตตาเวีย จึงต้องมีเพลงเกียรติยศ นักเรียนหญิง เป็นต้น แต่มีเนื้อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอีก
หรือเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นของตนเอง โดยคณะครูดนตรี ส�านวนหนึ่งที่เป็นพระนิพนธ์ในพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
ในยุคนั้น ได้ปรับปรุงเพลงบุหลันลอยเลื่อน (ทางฝรั่ง) มาใช้ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ส�านวนนี้เป็นส�านวนส�าหรับ
เป็นเพลงเกียรติยศหรือเพลงรับการเคารพแทนระหว่าง พ.ศ. ทหารเรือขับร้องโดยเฉพาะ
๒๔๑๔ – ๒๔๓๑ เนื้อรองเพลงสรรเสริญพระบารมีฉบับปจจุบันนั้น แตเดิม
้
่
ั
ต่อมาได้มีการเปลี่ยนมาใช้เพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นเนื้อร้องที่พระองค์ได้นิพนธ์ขึ้นเพื่อใช้ในพระราชพิธีลงสรง
ฉบับของพระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร) หรือครูมีแขก ที่ได้ ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยาม
ประดิษฐท�านองขึ้นทูลเกลาฯ ถวายเมื่อราว พ.ศ. ๒๔๑๖ ภายหลัง มกุฎราชกุมาร ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ต่อมาเมื่อถึงรัชสมัยของพระบาท
้
์
จากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ ๒ ได้ไม่นาน ซึ่งได้เค้า สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงน�าเพลงสรรเสริญพระบารมี
ท�านองมาจากเพลงสรรเสริญนารายณ์ของเก่า และได้เรียบ มาพระราชนิพนธ์ค�าร้องขึ้นใหม่ โดยทรงรักษาค�าร้องเดิมเอาไว้
เรียงเสียงประสานส�าหรับดนตรีตะวันตกโดย ปิออตร์ ชูรอฟสกี เกือบทุกอย่าง ยกเว้นแต่ทรงเปลี่ยนค�าร้องในท่อนสุดท้ายว่า ฉะนี้
นักประพันธ์เพลงชาวรัสเซีย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑ ให้เป็น ชโย และประกาศใช้ เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๖
และใช้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
27